Question: เวลาไปออกบูธเพื่อจะขายประกันสุขภาพให้ลูกค้าที่อยู่ตาม​ รพ.​ ต่างๆ​   เราจะมีบทพูดอย่างไรให้ลูกค้าหยุดฟัง​สินค้าที่เราจะนำมาเสนอขายคะ เพราะเวลาที่ใช้ทักทายหรือพูดคุยค่อนข้างจะน้อยมาก​

Answer:
ใช้หลักการ “10 คำแรก สำคัญกว่า 10,000 คำถัดไป”
คุณต้องใช้คำพูดให้น้อยที่สุด แต่ตรงประเด็นและกระตุ้นอารมณ์ผู้มุ่งหวังให้เร็วที่สุด เพราะเวลามีน้อยมากๆ อาจไม่ถึง 10 วินาทีเสียด้วยซ้ำเพราะเขาเดินผ่านไปผ่านมา

ตัวอย่างคำถาม
1.พี่คะออมเงินหลักร้อย แต่ช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลหลักล้านค่ะ 
ประกันฯไม่สำคัญ..ตอนที่ยังไม่ได้ใช้ค่ะ 
แต่ตอนจะใช้แล้วไม่มี จะรู้ว่าประกันฯสำคัญมาก 

รู้ก่อนตอนนี้ ดีกว่ารู้งี้ทีหลังค่ะพี่ ดูรายละเอียดก่อนได้ค่ะ 
ไม่จำเป็นต้องซื้อ น้องอธิบายให้ฟังสั้นๆ ค่ะ

2.เงินก้อนเล็กช่วยเซฟเงินก้อนใหญ่ของครอบครัวได้ค่ะ
เจ็บป่วยครั้งเดียวอาจทำให้เงินเก็บของครอบครัวหมดไปได้ค่ะ
ให้ประกันจ่ายแทนดีกว่าค่ะ ออมหลักร้อยและช่วยจ่ายค่ารักษาหลักล้านค่ะ

เมื่อเขาเข้ามาในบูธ นั่งลง คุณก็ต้องมีชุดคำถามต่อเพื่อ fact finding (หาข้อเท็จจริง หาความกังวลของผู้มุ่งหวัง) เช่น
พี่กังวลปัญหาเรื่องใดบ้างค่ะ
1.ค่ารักษาพยาบาลที่ควบคุมไม่ได้ จนต้องจ่ายค่ารักษานับล้านบาท
2.หากเจ็บป่วยนานๆ หรือจากไป รายได้ครอบครัวหายตลอดกาล อยากให้คนรับผิดชอบจ่ายค่าความเสียหายกไหม?
3.นอกจากค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยแล้ว การมีเงินไหล กระแสเงินสดใช้ทุกๆ เดือนตอนเกษียณจากงาน แต่ไม่เกษียณจากรายจ่าย เป็นเรื่องจำเป็นไหมคะ? 

เครื่องมือการขาย แบบประกัน แผนสุขภาพ รูปภาพลูกค้าที่ซื้อกับคุณ หรือข้อมูลอื่นๆ ที่โน้มน้าวใจลูกค้าได้ เช่นภาพข่าว บทความ ฯลฯ ต้องพร้อมเสมอ เมื่อถึงเวลาที่คุณนำเสนอ

อย่าพยายามขายมากจนเกินไป คุณกำลังกดดันลูกค้า
ให้ใช้วิธีโน้มน้าวใจด้วยเหตุและผล กระตุ้นอารมณ์
ภาษากาย น้ำเสียง ให้อ่อนโยน แต่ ไม่อ่อนแอ
ถึงเวลาที่ต้องแสดงความแข็งแกร่ง ก็ต้องไม่ แข็งกระด้าง

ที่สำคัญ ฝึกฝน ทำซ้ำบ่อย จนคุณเชี่ยวชาญ
วิเคราะห์การทำงานตัวเองทุกวันว่า อะไรทำให้คุณได้ผลลัพธ์ อะไรทำให้คุณไม่ได้ไปต่อ