เอาเงินไปซื้อทองดีกว่าซื้อประกันชีวิต

ตัวแทน: ผมเห็นด้วยเลยครับว่า ในเรื่องการลงทุน

ซื้อทองดีกว่าซื้อกว่าประกันชีวิตแน่นอน

เพราะราคาทองคำมีโอกาสขึ้น มีโอกาสได้กำไร

ถ้าดูสถิติย้อนหลัง สามสิบปีก่อน

ทองคำบาทละ 400 บาทเอง

ใครซื้อไว้เยอะๆ ถึงตอนนี้กลายเป็นเศรษฐีไปแล้ว

แถมทองคำยังสามารถเก็บแทนเงินสดได้

แลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที

ยิ่งสภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ต้องยิ่งซื้อทองเก็บ

ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับพี่

ทีนี้

ตอนที่พี่กำลังเอาเงินไปลงทุนซื้อทอง

หากพี่ซื้อรถป้ายแดงมาสามล้าน พี่จะทำประกันรถไหมครับ?

หากพี่สร้างโรงงานมูลค่าร้อยล้านมา พี่จะทำประกันไฟโรงงานไหมครับ?

จะเห็นว่าส่วนที่ลงทุนกับทอง เราก็ลงทุนกันไป

ส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัย เราก็ปัดความเสี่ยงไปให้

บริษัทประกัน เราก็ทำไป

จะเห็นว่า ทรัพย์สินเช่น รถยนต์ โรงงาน เราก็ป้องกัน

ยังมีทรัพย์สินอีกชิ้นหนึ่งครับ ที่คนส่วนใหญ่มองข้าม

นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า

ทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของมนุษย์ ไม่ใช่ทรัพย์สินภายนอก

แต่เป็นทรัพย์สินภายใน ก็คือเจ้า “Earning Ability”

(ความสามารถในการหารายได้)

พี่เห็นด้วยกับผมไหมครับว่า

ทรัพย์สินภายในที่สร้างทรัพย์สินภายนอกทุกอย่าง

ไม่ว่าจะเป็นทองคำ รถยนต์ บ้าน เงินสด

ความสุขสบายของคนในครอบครัวพี่

ประกันชีวิตไม่ได้ถูกออกแบบมา

เพื่อแข่งขันกับการลงทุน เช่นซื้อทอง ซื้อหุ้น ฯลฯ

แต่ถูกออกแบบมาเพื่อให้แผนการลงทุน

ที่หัวหน้าครอบครัววางไว้ ไม่ล่มสลายกลางทาง

พี่เห็นด้วยกับผมไหมครับ

เงินที่นำมาซื้อทองเพื่อลงทุนนั้นมาจาก

“ความสามารถในการทำงานของพี่”

หากวันนี้พี่ยังสามารถอยู่ทำงาน

และลงทุนซื้อทองไปเรื่อย

ผมเชื่อเลยว่า ความร่ำรวย

ความมั่งคั่งจะเป็นของพี่

และครอบครัวอย่างแน่นอน

แต่ทว่า..ชีวิตคนไม่เหมือนเครื่องบิน

ที่มีตารางเวลาเที่ยวบิน

บอกว่าเครื่องออกกี่โมง ถึงจุดหมายกี่โมง

ชีวิตคนเรารู้แค่เที่ยวบินขาเกิด

แต่ไม่รู้เที่ยวบินขาจากโลกนี้ไป

ยมบาลไม่ได้แจกบัตรคิว นึกจะมาก็มา

ตอนที่เรือไททานิคถูกสร้างขึ้น มีคนกล่าวว่า

Even God cannot sink this gigantic boat!

แปลว่า “แม้แต่พระเจ้ายังไม่สามารถจมเจ้าเรือมหึมาลำนี้ได้”

แต่แค่ออกจากท่า เป็นการเดินทางเพียงครั้งแรก

ไททานิคชนภูเขาน้ำแข็ง และค่อยๆ จมลงทะเลในที่สุด

มีคนตายนับพัน เป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่ใครคิดว่าจะเกิด

การที่มีคนตายเป็นพันคนนั้น

ที่ตายไม่ใช่เพราะเรือไททานิคจมนะครับ

แต่ตายเพราะ “เรือชูชีพ” ไม่พอ

วันนี้เรามาสร้าง “เรือชูชีพ” เพื่อปกป้องทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของพี่กันครับ

เงื่อนไขก็ง่ายแสนง่าย

เอาเงิน 30 บาทต่อปี ไปแลก แบงค์พันหนึ่งใบ

หรือเอาเงินสามพัน ไปแลก หนึ่งแสน

เอาเงินสามหมื่น ไปแลก หนึ่งล้าน

สร้างกองทุนปกป้องค่าความสามารถ 10 ล้าน

ก็ออมปีละ 300,000 บาท

หากฝากไปเพียงปีเดียว ต้องจากไปก่อน

เงินสดสิบล้านถูกส่งมอบให้คนที่พี่รักที่สุด

หากฝากไปเรื่อยๆ ไม่เกิดอะไรขึ้น

พี่ได้กำไรสามต่อ

ต่อที่หนึ่ง ได้มีชีวิตยืนยาวอยู่กับคนที่พี่รัก ผมว่าอันนี้ประเมินค่าไม่ได้เลยนะครับ

ต่อที่สอง ตอนนั้นทองที่พี่สะสมไว้คงมากมายมหาศาล

ต่อที่สาม เงินที่พี่สะสมไว้กับบริษัทประกันจะส่งถูกส่งมอบกลับไปให้พี่ไว้ใช้ยามเกษียณ

เริ่มต้นที่ ทุนประกันสิบล้าน หรือ ยี่สิบล้านดีครับพี่

เขียนโดย พี่เจฟ