Question:
ลูกค้า อยากทำประกันมรดก ให้ลูก  แต่ รอเทียบแบบ 2 บริษัท  ซึ่ง 
บริษัทที่ 1 จ่ายเบี้ยยาวกว่า ทำให้ เบี้ยสะสมมาก
บริษัทที่ 2 จ่ายเบี้ย 5 ปี  เบี้ยสะสม น้อยกว่าทุกบริษัท แต่ ต้องจ่ายเบี้ยปีละ 3.4 ล้าน 

ส่วนของบริษัทหนู  จ่ายเบี้ย 10 ปี เบี้ยสะสม มากกว่า บริษัทที่ 2 อยู่ แค่ 2 ล้านบาท 

ถ้าเจอ ลูกค้าแบบนี้ หนูควรขายไอเดีย อย่างไรดีคะ

บริษัทหนูชนะ บริษัท 1   แต่ ไม่ชนะ บริษัท 2

เป็นคำถามที่รีดพลังสมองมากๆ 
ใครมาเรียน ROAD TO MDRT วันที่ 26 จะเจาะลึกให้
สอนแบบเห็นหน้า คุณจะเก็ตมากๆ

ANSWER:

ถ้าเขาเป็นนักธุรกิจ
ให้จ่ายเบี้ยต่ำที่สุด ไม่ต้องสนระยะเวลาชำระเบี้ย


????คีย์สำคัญ เวลาเปรียบเทียบกับบริษัทอื่น
1.หากจะจ่ายเบี้ยเท่ากันทุกบริษัท 
????ทุนประกันของน้องต้องสูงที่สุด
ไม่ต้องสนระยะเวลาชำระเบี้ย เพราะมันเป็นมรดก จะส่งมอบก็ตอนเสียชีวิตอยู่แล้ว

2.หากจะเปรียบเทียบในแง่ ทุนประกันเท่ากัน
????เบี้ยน้อง ต้องถูกที่สุด 

✅ควรเป็นแบบตลอดชีพไม่มีปันผล เพราะมีมูลค่าเวนคืน เผื่ออนาคตลูกค้าเกิดปัญหา จ่ายเบี้ยไม่ได้บางปี ยังกู้อัตโนมัติมาจ่ายได้ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้

✅การจ่ายเบี้ยถูกสุด จะมาพร้อมกับระยะเวลาส่งยาวที่สุด ถ้าลูกค้าบอกยาวกว่าบริษัทอื่น ให้เหตุผลว่า
เหตุผลที่แบบประกันของน้องจ่ายเบี้ยต่ำที่สุด
น้องเลือกแบบนี้ เพราะ หากเอาส่วนต่างเบี้ยที่ประหยัดได้ไปลงทุน พี่จะได้มรดกให้ลูกอีกก้อน

เช่น ทุน 100 ล้าน
บริษัท A เบี้ย 8,000,000฿
บริษัท B เบี้ย 7,000,000฿
บริษัทน้อง เบี้ย 3,000,000฿

จะเห็นว่ามีส่วนต่างเบี้ยของบริษัทน้องกับบริษัทอื่นอยู่

ตรงนี้ใช้ตารางดอกเบี้ยทบต้น หาในเน็ตก็มี
เพื่อดูว่า ส่วนต่างเบี้ยที่ประหยัดได้
หากไปลงทุนในตราสารหนี้ เช่รหุ้นกู้เอกชน ตลาดหุ้น (แล้วแต่ความสามารถในการับความเสี่ยง) จะให้ผลตอบแทนเท่าไหร่ ในจำนวนปีที่ผ่านไป

หรือถามเขาว่า ถ้าพี่ทำธุรกิจเอง
ได้กำไรกี่เปอร์เซนต์ต่อปี
หากเขาบอกว่าปีละ กี่เปอร์เซนต์ก็ตาม
ให้เอาส่วนต่างเบี้ยคูณจำนวนปีต่างๆ ให้เขาดูเป็นตัวอย่าง 
เช่น เขาบอก 15% ต่อปี
ก็เอาส่วนต่างเบี้ยที่ประหยัดได้ (ของแต่ละบริษัท ทั้งบริษัท A และ B) ไปคูณด้วยจำนวนปี อาจยกตัวอย่าง โดยคูณในตารางดอกเบี้ยทบต้น ที่ช่อง 15% สักปีที่ 10 หรือ 15

ชี้ให้เขาดูตัวเลข
เพื่อให้เห็นว่า เบี้ยที่ประหยัดได้ จะทำเงินให้เขาขนาดไหน
????มีทั้งมรดกให้ลูกอีกก้อน และสภาพคล่องที่สูงกว่า เมื่อเอาเงืนส่วนหนึ่งมาบริหารการลงทุนเอง

สรุป
เรามีตารางดอกเบี้ยทบต้นบอกได้ว่า จะได้กำไรเท่าไร ตามเวลาที่ผ่านไป
แต่...
เราไม่มีตารางไหนเลย บอกว่าชีวิตจะไปอยู่ที่ไหน ช้า หรือ เร็ว ไม่มีใครรู้เลย

เรื่องจากไปนั้น...ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับว่า
เหลือ..ให้คนที่พี่รักเท่าไหร่

น้องกับพี่จึงมานั่งวางแผนกันในวันนี้ เพื่อหาแผนที่แน่นอนสร้างมรดกให้คนที่พี่รักไงคะ