กำลังบันทึกข้อมูล
ทำประกันแล้วรู้สึกเสียเปรียบ บริหารเงินไว้เองดีกว่า
แบ่งปัน
โดย ชัยยะพัส อินจงกลรัศม์ 19/7/64 19:01
ตัวแทน: ผมเข้าใจพี่เลย คนทำประกันชีวิตเสียเปรียบบริษัทประกันหลายเรื่อง
เช่น ตอนฝากเบี้ยประกันเข้าไป เป็นเงินปัจจุบัน แต่ตอนบริษัทคืนเงินเรา นั่นเป็นเงินอนาคต พอเวลาผ่านไป 20 ปี 30 ปี เงินลดค่าหมดแล้ว 

ตัวอย่าง
เงินสด 1,000,000 บาท ตอนนี้ ซื้อ ทองได้ 38 บาท
เทียบกับ
เงินสด 1,000,000 บาท เมื่อ 20 ปีที่แล้ว จะซื้อทองได้ถึง 178 บาท

อีกข้อหนึ่ง หากพี่ทำประกันชีวิต พี่ฝากเบี้ยประกันมาได้สักครึ่งทางของสัญญา เกิดพี่อยากจะถอนเงินคืน พี่ก็ถอนได้ไม่ครบ พี่ถอนได้ก็แค่มูลค่าเงินสดในกรมธรรม์ เผลอๆ พี่ถอนเงินได้มาไม่ถึงครึ่งนึง ของเบี้ยประกันรวมที่พี่จ่ายไปเสียอีก

อีกข้อหนึ่งก็คือ ถ้าพี่อยากจะเอาเงินตัวเองมาใช้ พี่ก็ยังต้องกู้เงินตัวเองในกรมธรรม์ออกมา แถมเสียดอกเบี้ยให้กับเงินที่ตัวเองฝากไป ดูแปลกๆ ยังไงไม่รู้เนอะ

ด้วยเหตุผลที่ผมพูดมาใช่ไหม จึงทำให้พี่คิดว่า ทำประกันแล้วเสียเปรียบ เลยเลือกเก็บเงินไปลงทุนไปบริหารเองดีกว่า

ผู้มุ่งหวัง: ใช่เลย

แต่พี่เคยสงสัยไหมครับว่า
ถ้าประกันมันมีข้อเสียมากมายขนาดนี้

ทำไมรัฐบาลไทยรณรงค์ให้คนซื้อประกันชีวิต แถมยังให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีตั้ง 100,000 บาท?
และรัฐบาลทั่วโลกก็ทำแบบนี้เหมือนกัน

ทำไมประเทศที่เจริญแล้ว ผู้คนในชาติเหล่านั้น ไม่มีสติปัญญาเพียงพอที่จะเข้าใจเรื่องแบบนี้หรือ ถึงทำประกันชีวิตกันเยอะแยะมากมาย

เช่น ญี่ปุ่นมีคนทำประกันชีวิตถึง 300% กว่า! เฉลี่ยประชากร 1 คนมีถึง 3 ฉบับกว่าๆ
อเมริกามีคนทำประกันชีวิต 200 กว่าเปอร์เซ็นต์
สิงคโปร์เป็นประเทศที่เจริญแล้วเพียงประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอัตราส่วนการทำประกันชีวิต 276%  เฉลี่ยประชากรมีกรมธรรม์ คนละเกือบ 3 ฉบับ
พี่งงไหมครับ?

พี่สงสัยใช่ไหม แล้วประเทศไทยมีคนทำประกันชีวิตกี่%?
ณ ปี 2562 อัตราส่วนคนไทยที่ทำประกันชีวิตคิดเป็น 39% ครับ

อธิบายแบบง่ายๆ
คนไทย 100 คน
มีประกันชีวิต 39 คน
แปลว่า คนไทย 100 เสียชีวิตลง
39 คนเสียชีวิต บริษัทประกันชีวิตจ่ายค่าสินไหมให้ครอบครัว (มีค่าตัวทางเศรษฐกิจ)
61 คนเสียชีวิต จากไปเป็นค่าตัวกลายเป็นศูนย์ หากคนที่เสียชีวิตเป็นคนหารายได้หลักเข้าบ้าน

แต่ผมก็เข้าใจพี่อยู่ดีว่า ยังไงพี่ก็ยังรู้สึกว่าทำประกันแล้วพี่ “เสียเปรียบ”

งั้นลองมาดูมุมนี้กัน

สมมติวันนี้ ผมเอาเงินมาฝากกับพี่ทุกปี ปีละ 300,000 บาท ผมไม่บิดพลิ้วเลย ผมไม่ขอดอกเบี้ยใดใดจากพี่ด้วย พี่จะเอาเงินผมไปทำอะไรได้ตามใจพี่เลย จะเอาเงินผมไปลงทุนหาผลตอบแทน อะไรก็ได้เชิญเลยครับ

แต่สมมติผมฝากไปได้แค่ปีเดียว แล้วผมตาย
พี่จะต้องนำเงิน 10 ล้านบาท ไปมอบให้กับภรรยาและลูกผม เขาจะได้มีเงินเลี้ยงชีพตอนผมไม่อยู่

แต่หากไม่เกิดอะไรขึ้นตอนผมแก่ตัว ไม่ได้ทำงานแล้ว พี่ต้องคืนเงินที่ผมฝากมาทั้งหมดให้ผมใช้ตอนผมเกษียณ

พี่รับข้อเสนอนี้ไหมครับ?

ผู้มุ่งหวัง: ไม่เอาหรอก

ตัวแทน: ทำไมล่ะครับ มันรู้สึกว่า มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบหรือครับ?

ผู้มุ่งหวัง: ใช่.. ผมเสียเปรียบ

ตัวแทน: ถ้าสลับกัน มีคนรับฝากด้วยเงื่อนไขนี้ แล้วพี่เป็นคนฝากแบบนี้ พี่ฝากไหมครับ?

ผู้มุ่งหวัง: ฝากสิ

ตัวแทน: บริษัทประกันชีวิตรับฝากด้วยเงื่อนไขนี้เลยครับ สรุปว่า...พี่ได้เปรียบบริษัทประกันแล้วนะครับ

วันนี้เริ่มที่วงเงิน 5 ล้าน หรือ 10 ล้านดีครับ?
ดู 481, ตอบ 0
โปรแกรมกุนซือประกัน (Beta) V.1
สงวนลิขสิทธิ์ © 2567 พี่ชื่อเจฟ
นโยบายการจัดส่งสินค้า | นโยบายการยกเลิกการสั่งซื้อ | นโยบายการคืนเงิน | นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | ข้อเสนอแนะจากผู้ใช้