กำลังบันทึกข้อมูล
นัดรีครูทอย่างไร ไม่ให้เสียมิตรภาพ
แบ่งปัน
โดย ชัยยะพัส อินจงกลรัศม์ 17/7/64 17:11

????ถาม:

พี่เจฟคะถ้าเราจะเข้าไปรีครูท จะเริ่มต้นอย่างไรดีคะ

.

พอนัดเขารีบถามเลยว่าเรื่องอะไรบอกก่อนได้ไหม???? เสมือนกลัว แบบตั้งกำแพงไว้ก่อน

.

เราก็บอกว่าไม่มีอะไร อยากช่วยทำแบบสอบถามข้อมูล เดี๋ยวจะเข้าไปหา

.

แบบนี้ใช้ได้ไหมคะ

.

✅ตอบ:

ก่อนจะตอบคำถาม

ผมอยากให้คุณลองจำลองสถานการณ์ หากคุณเป็นผู้มุ่งหวัง แล้วมีคนโทรหาคุณ แล้วอยากนัดคุยกับคุณ

.

คุณก็เลยถามเขาไปว่า “เรื่องอะไร บอกก่อนได้ไหม”

.

แล้วเขาก็ตอบคุณว่า “ไม่มีอะไร อยากให้ช่วยทำแบบสอบถามข้อมูล เดี๋ยวจะเข้าไปหา”

.

ตัวคุณเองรู้สึกอย่างไร??? (คิดแบบจริงจัง)

.

????????มาลองวิเคราะห์กันดูนะครับ

.

คำว่า “ไม่มีอะไร” คำนี้กระตุ้นต่อม “ทะแม่ง” เขาจะเริ่มคิดว่ามีอะไรทะแม่งๆ ไม่ชอบมาพากลแน่ๆ

.

จะมาขายอะไร หรือ มาชวนทำอะไร และเวลาใครมาชวนทำอะไร คนจะกลัวเสียเงินเสียทอง กลัวถูกหลอก

.

เขาจึงตั้งการ์ด ตั้งกำแพง เพราะคำพูดของคุณไปปิดหัวใจเขาตั้งแต่แรก (นักขายประกันชีวิตหลายคนก็ใช้ปริบทคล้ายๆ กันนี้ในการทำนัด

.

คำพูดลักษณะนี้ปิดหัวใจ และสร้างความกลัวถูกขายให้กับผู้มุ่งหวังเช่นกัน)

.

เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณคิดว่า เมื่อคุณไปถึง แล้วคุณเริ่มชวนเขา สิ่งที่เขาคิดไว้เริ่มเข้าเค้าความจริง เขาจะรู้สึกกับคุณอย่างไร?

.

นี่เป็นเหตุผลที่การรีครูทที่ผิดวิธีทำให้เสียเพื่อน เสียมิตรภาพมาแล้วหลายคน เพราะไม่พูดความจริงเสียแต่เริ่มต้น

.

“การรีครูท” ก็คือการขายชนิดหนึ่ง

.

เป็นการขายอาชีพ ขาย “โอกาส” ในการสร้างธุรกิจ สร้างรายได้

.

????????ถ้าคุณเข้าใจทฤษฎีการขายอย่างถ่องแท้ คุณจะเข้าใจว่า คนซื้อ “ประโยชน์” สินค้า ไม่ใช่ตัวสินค้า

.

เหมือนที่ผมเคยสอนว่า

ให้คุณขาย “กลิ่นไก่ย่าง” แทนที่จะขายตัวไก่

.

ก่อนจะรีครูท (ขายอาชีพ) เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมคำพูดให้พร้อม

.

1. มายเซ็ตต้องทรงพลัง คุณกำลังส่งมอบโอกาสทางธุรกิจที่เยี่ยมยอดให้ผู้คน คุณไม่ได้ไปขอใคร

.

2. อย่างดีที่สุด ก็แค่ไม่ได้ร่วมงานกัน นั่นอาจเพราะเขาไม่เห็นโอกาส หรือ เพราะเรายังไม่แก่กล้า ยังไม่ชำนิชำนาญในวิชาการรีครูท

.

3. มีบทพูดที่ชัดเจนในแต่ละกลุ่มบุคคล และ สถานการณ์ (เรื่องนี้เรียนกันนาน)

.

????หากให้ผมแนะนำ

 

บทโทรทำนัดเพื่อรีครูท ควรมีลักษณะดังนี้

.

1. ทำให้เขาฉงน ด้วยเทคนิค “สิบคำแรกสำคัญกว่าหมื่นคำถัดไป” มีบทพูดที่ชัดเจน

.

2. ตรงไปตรงมา

.

3. ไม่ตื้อ ง้อ ขอขาย

.

4. ถามคำถาม แทนที่จะพูดแต่ “ประโยคบอกเล่า”

.

5. น้ำเสียงที่ทรงพลัง มั่นใจในตัวเอง มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำ

.

บทโทรทำนัดเพื่อการรีครูท

.

ผู้บริหาร: ในยุคที่โควิดระบาด เศรษฐกิจขาลง คุณคิดว่าการมีรายได้ช่องทางเดียว กับ หลายช่องทาง แบบไหนดีต่อครอบครัวมากกว่ากันครับ

.

ผู้มุ่งหวัง: รายได้หลายช่องทาง

.

ผู้บริหาร: คุณว่ามันสมเหตุสมผลไหม ถ้าธุรกิจเราได้ช่วยคนจริงๆ แบบไม่หลอกตัวเองนะ และตัวเราก็มีรายได้อีกช่องทาง win-win หมด ทั้งลูกค้าที่ซื้อสินค้าเรา และ ตัวเราในฐานะผู้ทำธุรกิจ

.

เวลาเพื่อนป่วย ญาติป่วย คุณไปเยี่ยมไหม?

.

ผมว: ไปสิ

.

ผู้บริหาร: ส่วนใหญ่ คุณเอาอะไรไปเยี่ยมเพื่อนหรือครับ?

.

ผมว: กระเช้าผลไม้บ้าง รังนกบ้าง

.

ผบ. คุณคิดว่า ตอนเพื่อนเรา ญาติเราป่วยหนักๆ เพิ่งออกจากห้องผ่าตัด เขาจะมีแก่ใจอยากทานผลไม้ รังนกที่เราเอาไปให้ไหม? เราแค่ทำเป็นมารยาทมากกว่าที่จะหวังให้เขาทานมันจริงๆ ใช่หรือไม่?

.

ผมว. ..... ก็จริง

.

ผบ. สมมติวันนี้ถ้าเปลี่ยนบทบาทได้ ระหว่างการเอากระเช้าไปเยี่ยมไข้ กับ คุณไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดให้เพื่อน ให้ญาติ แถมมีเงินไปชดเชยรายได้ที่เขาต้องสูญเสียในแต่ละวัน เพราะไปทำงานไม่ได้

ถามจริงๆ นะ ถ้าเลือกได้จริงๆ คุณอยากเลือกแบบไหน?

.

ผมว. แบบที่สอง

.

ผบ. แต่คุณไม่ต้องใช้เงินคุณเองหรอก ใช้เงินบริษัทนี่แหละ เพียงแต่คุณแค่บอกเขาล่วงหน้า ให้เขาปกป้องตัวเขาเองล่วงหน้า

.

หรือ กรณีที่สอง

ถ้าวันนี้เพื่อนคุณ หรือ ญาติคุณเสียชีวิต คุณต้องไปงานศพพวกเขาไหมครับ

.

ผมว. ไปสิ

.

ผบ. แล้วคุณเอาเงินใส่ซองไปให้เจ้าภาพ ถูกไหม? คุณเคยใส่ซองงานศพมากที่สุดเท่าไหร่ครับ?

.

ผมว. ก็ ห้าร้อยบ้าง พัน สองพัน บ้าง

.

ผบ. แล้วก็ฟังพระสวด ถ้าคุณมองไปรอบๆ ในขณะพระสวด มีหลายคนนั่งเล่นไลน์ เฟซบุค เล่นเกม

.

คุณคิดว่าคนในงานสักกี่คน ที่แคร์จริงๆ ว่า

ชีวิตของผู้สูญเสียหัวหน้าครอบครัวจะเป็นอย่างไร หลังจากงานศพผ่านไป?

.

แคร์จริงๆ ว่า

แม่หม้ายจะเลี้ยงลูกของเธอยังไง เมื่อสูญเสียรายได้จากสามีไปตลอดกาล

.

หรือ ถ้าผู้ตายมีพ่อแม่ที่แก่เฒ่า ใครจะเลี้ยงดูพ่อแม่ของเขา

.

พองานศพเลิก ต่างก็แยกย้าย บางคนยังไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ต่อ ไม่มีใครแคร์จริงๆ หรอกครับ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเขา

.

หรือ อาจมีคนแคร์ แต่เขาจะช่วยได้จริงๆ หรือ ถ้าต้องจ่ายเงินก้อนโตให้แม่หม้าย หรือ พ่อแม่ชราของผู้ตาย

.

ผมถามคุณจากใจมนุษย์คนนึง

.

ถ้าคุณเลือกได้ ระหว่าง

ใส่ซอง ห้าร้อย หรือ พันนึง

เปลี่ยนเป็นใส่ซอง สัก ห้าแสน หรือ ล้านนึง

แบบไหนจะช่วยครอบครัวผู้ตายได้มากกว่ากัน?

.

แต่คุณไม่ต้องเอาเงินคุณจ่าย เอาเงินบริษัทนี่ล่ะจ่าย

คุณเป็นเพียงทูตสวรรค์นำเงินไปช่วยเขา

.

แบบนี้คุณได้ช่วยครอบครัวผู้ตายอย่างเป็นรูปธรรมกว่าหรือไม่?

.

(เว้นจังหวะ ให้เขาได้คิดบ้าง อย่าเอาแต่ พูดๆๆๆ ให้ฟังด้วย)

.

ผมว. ใส่ซองสักห้าแสน หรือ ล้านนึงน่าจะช่วยเขาได้มากกว่า

.

ผบ. นั่นแหละ สิ่งที่ผมกำลังจะไปคุยกับคุณ คุณได้ช่วยคน

.

ในขณะที่คุณช่วยคน คุณก็ได้ช่วยครอบครัวตนเอง มีรายได้อีกหนึ่งช่องทางเข้ามา คุณว่าทำกุศลแล้วได้เงินด้วย มันมีเหตุมีผลไหม?

.

ผมว. อืม...

.

ผบ. แต่รายละเอียดมันเยอะ จึงต้องทำนัดอย่างเป็นกิจลักษณะ คุยกันแบบมืออาชีพ

.

ถ้าคุยกันแล้ว เอ้อ ดี เวิร์ค ก็ค่อยว่ากัน

.

แต่ถ้าคุณคิดว่ามันไม่ใช่ “วิถี” ของคุณ ก็ขอให้คุณลืมมันซะ

.

และผมจะคุยกับคุณในเรื่องนี้แค่เพียงครั้งเดียวในชีวิต แบบนี้ แฟร์ไหม?

.

(ปิดการนัดหมาย)

สะดวกเป็นวันธรรมดา หรือ เสาร์อาทิตย์

ช่วงบ่าย หรือ เย็นดี

.

สถานที่ออฟฟิศฉัน หรือ สถานที่กลาง

.

อาจารย์สอนผมให้เป็นมืออาชีพ ดังนั้นผมจะไปก่อนเวลาเสมอ 30 นาทีแน่นอน

ดู 618, ตอบ 1
Re: นัดรีครูทอย่างไร ไม่ให้เสียมิตรภาพ
ความคิดเห็นที่ 1
ตอบโดย นายไพโรจน์ เรือนคำ 30/6/66 22:36
อ่านแล้วมีประโยชน์มากๆๆครับผมจะนำไปปฏิบัติ
โปรแกรมกุนซือประกัน (Beta) V.1
สงวนลิขสิทธิ์ © 2567 พี่ชื่อเจฟ
นโยบายการจัดส่งสินค้า | นโยบายการยกเลิกการสั่งซื้อ | นโยบายการคืนเงิน | นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | ข้อเสนอแนะจากผู้ใช้